วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ทำบุญวันเกิด

ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด เกี่ยวกับเรื่องของ “ บุญ ” คิดว่าการทำบุญก็คือ การตักบาตร การถวายทรัพย์ , ปัจจัย การถวายสังฆทาน ฯลฯ เพียงเท่านี้ เป็นต้น


“ บุญ ” หรือ “ ปุญญ ” แปลว่า ชำระ หมายถึงการทำให้หมดจด จากมลทิน เครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะ และ โมหะ



ตามพระไตรปิฎก เราสามารถสร้าง “ บุญ ” ได้ถึง ๓ อย่าง คือ


๑ . ทาน คือ การให้ เช่นที่กล่าวมาแล้ว คือ การตักบาตร บริจาคทรัพย์ ถวายสังฆทาน เป็นต้น ถือเป็น จาคะ หรือ การให้ นับเป็น บุญอย่างหนึ่ง แต่มีการให้บางประการที่ไม่นับเป็นบุญ เช่น สุรา มหรสพ ให้สิ่งเพื่อกามคุณ เป็นต้น


๒ . ศีล คือ ความประพฤติที่ไม่ละเมิด หรือรักษาความสำรวมทางกาย วาจา การรักษาศีลสำหรับฆราวาส ได้แก่ ศีล ๕ และอุโบสถศีล ( มี ๘ ข้อ )


๓ . ภาวนา ภาวนา คือ การอบรมจิต ทางสมถะและทางวิปัสสนา การนั่งสมาธิ เรียกว่า สมถะภาวนา ส่วนการนั่งวิปัสสนา ( สติรู้ถึงรูป – นาม ) เรียกว่า วิปัสสนาภาวนา



ถ้าท่านต้องการทำบุญวันเกิดของตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าจะไปทำบุญ หรือบริจาคได้ที่ไหนดี



นี่คือรายชื่อองค์กรและมูลนิธิต่าง ๆ ที่คุณสามารถบริจาคได้

1. ทำบุญวันเกิด บ้านครูน้อย

2. ทำบุญวันเกิด บ้านอุ่นรัก

3. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

4. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิกระจกเงา

5. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา

6. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิชีวิตบริบูรณ์

7. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิชุมชนไท

8. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิดร. พิชนี โพธารามิก

9. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิดวงประทีป

10. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิบ้านนกขมิ้น

11. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิปวีณาหงสกุล

12. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิรักษ์เด็ก

13. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์

14. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน

15. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้า

16. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

17. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก

18. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ.ในประเทศไทย

19. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

20. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสร้างเสริมไทย

21. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสันติสุข

22. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด

23. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสิกขาเอเซีย

24. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

25. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอาร์ทฟอร์ออล

26. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก

27. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอินเทอร์เน็ตเพื่อโรงเรียนและชุมชน

28. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเกื้อดรุณ

29. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก

30. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็ก

31. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กตัวเล็ก

32. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ

33. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ

การทำบุญวันเกิด

ทำบุญวันเกิด



ความเป็นมา
อัน ประเพณีที่จะ ทำบุญวันเกิด ขึ้นนี้เนื่องจาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างตั้งแต่ยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง ด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่าการมีอายุยืนมาบรรจบรอบปีครั้งหนึ่งๆ ไม่ตายไปเสียก่อนเป็นลาภอันประเสริฐ ควรยินดี เมื่อรู้สึกยินดีก็ควรจะบำเพ็ญกุศล ที่เป็นประโยชน์แก่ตนและแก่ผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท เพราะไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่งชั้นหนึ่ง เมื่อรู้สึกเช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิตเสียได้ นี้เป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นสาเหตุให้ มีการทำบุญวันเกิดขึ้นเรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา



การที่ทรง ทำในครั้งนั้นปรากฏว่ามีการสวดมนต์เลี้ยงพระ ๑๐ รูป เป็นการน้อยๆ เงียบๆ ครั้นต่อมาก็มีเจ้านายขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น แต่การทำบุญเกี่ยวกับพระลดลง เป็นแค่ประชุมคนแสดงเกียรติยศให้ปรากฏว่ามีผู้นับถึอมาก ตั้งโรงครัวเลี้ยงกันไปวันยังค่ำการมหรสพก็มีละครเป็นพื้น และนำของขวัญไปให้กันมีการเลี้ยงดูกันอย่างสนุกสนานให้ศีลให้พรกัน ถ้าเป็นวันเกิดเจ้านายขุนนางชั้นผู้ใหญ่ พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานพระราชหัตถเลขาให้พรด้วย พระราชทานของขวัญด้วย สมัยนั้นการทำบุญถือเป็นเกียรติใหญ่ เมื่อถึงวันเกิดของใครก็อึงคนึงเป็นการใหญ่ตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้ว และถือว่าถ้าไม่ไปช่วยงานวันเกิดกันแล้วเป็นไม่ดูผีกันทีเดียว



สมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงผนวชเป็นสามเณรก็ทรงทำบุญวันพระราชสมภพ ตามอย่างพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วิธีทำก็มี สวดมนต์ เลี้ยงพระและแจกสลากสิ่งของต่างๆ แก่พระสงฆ์ ทรงทำตลอดมาจนกระทั่งเสวยราชย์และทำเป็นการใหญ่เช่น หล่อพระพุทธรูปอายุ เรียกว่า “หล่อพระชนมพรรษา” ทั้งมีการตกแต่งตามชาลาพระบรมมหาราชวัง ให้เป็นการครึกครื้นสนุกสนาน ตามริมน้ำและตามถนนก็สว่างไสวไปด้วยแสงประทีปโคมชวาลา จึงได้เกิดมีการแต่งซุ้มไฟประกวดประขันกันขึ้นและมีเหรียญพระราชทานแก่ผู้ แต่งซุ้มไฟเป็นรางวัล อนึ่งในวันนั้นได้มีผู้ไปลงนามถวายพระพร พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการอ่านคำถวายพระพรอันเป็นเครื่องหมายแสดงความจงรักภักดี จึงถือเป็นประเพณีเนื่องด้วยทำบุญวันเกิดมาจนปัจจุบันนี้



วิธีปฏิบัติในการทำบุญวันเกิด

วิธีปฏิบัติ ในการทำบุญวันเกิดอาจเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ ดังนี้



๑. ตักบาตรพระสงฆ์เท่าอายุหรือเกินอายุหรือกี่รูปก็ได้ตามสะดวก

๒. บำเพ็ญกุศลอุทิศแก่บรรพบุรุษ ที่เรียกว่า ทักษิณานุประทานก่อนแล้วจึงบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเกิด

๓. ทำบุญ สวดมนต์ เลี้ยงพระ หรือมีพระธรรมเทศนาด้วย

๔. ถวายสังฆทาน

๕. ทำทานช่วยชีวิตสัตว์ เช่นปล่อยนก ปล่อยปลา ฯลฯ หรือส่งเงินไปบำรุงโรงพยาบาลหรือกิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์อื่นๆ

๖. รักษาศีลหรือบำเพ็ญภาวนา

๗. กราบขอรับพรจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย หรือผู้ที่ตนเคารพนับถือ

๘. บำเพ็ญคุณประโยชน์อื่นๆ โดยมุ่งที่การให้ มากกว่า เป็นการรับ



อานิสงส์หรือผลดีของการทำบุญวันเกิด


การ ทำบุญวันเกิด คือการปรารภวันเกิดและทำความดีในวันนั้นเป็นเหตุให้ได้รับผลดีหรืออานิสงส์ ตอบแทน ดังมีพุทธภาษิตความว่า “ผู้ให้อาหาร ชื่อว่า ให้กำลัง ผู้ให้ผ้า ชื่อว่า ให้ผิวพรรณ ผู้ให้ยาน ชื่อว่า ให้ความสุข ผู้ให้ประทีป ชื่อว่า ให้ดวงตา” (พระไตรปิฏก เล่มที่ ๑๕ ข้อ ๑๓๘ หน้า ๔๔ ) และพระพุทธภาษิต ความว่า “ผู้ให้สิ่งที่น่าพอใจ ย่อมได้สิ่งที่น่าพอใจ ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศ ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐ ผู้ให้สิ่งที่ประเสริฐสุด ย่อมได้สิ่งที่ประเสริฐสุด “ (พระไตรปิฏก เล่มที่ ๒๒ ข้อ ๔๔ หน้า ๖๖)



ข้อเสนอแนะในการทำบุญวันเกิด


๑. กิจกรรมในการทำบุญวันเกิดควรเน้นคุณค่าทางจิตใจมากกว่าวัตถุ เช่นทำจิตใจให้สงบแจ่มใสและทำบุญตามศรัทธา

๒. ควรเป็นกิจกรรมที่มุ่งบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นหรือส่วนรวม เช่นการบริจาคทาน สมทบทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ ใช้แรงงานของตนเองเพื่อส่วนรวม

๓. ควรมุ่งเน้นให้เป็นการประหยัด จัดงานวันเกิดในวงครอบครัวไม่ควรจัดหรูหราฟุ่มเฟือย

๔. ควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ไม่จำเป็นต้องจัดแบบต่างประเทศ เช่นตัดเค้กวันเกิดจุดเทียน หรือเป่าเทียน ร้องเพลงภาษาต่างประเทศอวยพรวันเกิด ฯลฯ

๕. ในกรณีที่ผู้น้อยไปรดน้ำอวยพรวันเกิดผู้ใหญ่ นิยมอ้างคุณพระศรีรัตนตรัยก่อนแล้วจึงมีคำอวยพร ส่วนของขวัญที่จะให้นั้น ควรทำด้วยน้ำพักน้ำแรงหรือของที่ประดิษฐ์ด้วยฝีมือตนเอง ถ้าเป็นดอกไม้ควรเป็นดอกไม้ที่ปลูกในประเทศไทย กรณีที่ผู้ใหญ่อวยพรวันเกิดผู้น้อย ผุ้ใหญ่ควรกล่าวถ้อยคำอันเป็นมงคลแก่ผู้รับพร




ทำบุญอายุ




การ ทำบุญอายุ มักนิยมทำกัน เมื่ออายุ ๒๕ ปี ซึ่งเรียกว่าเบญจเพสแผลงมาจาก ปัญจวีสะ คำว่าเบญจเพส ก็แปลว่า ๒๕ นั่นเอง ถือกันว่าตอนนี้เป็นตอนสำคัญ เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะย่างขึ้นสู่สภาวะผู้ใหญ่ ตั้งตนให้เป็นหลักเป็นฐาน ถ้าดีก็ดีกันในตอนนี้ ถ้าเอาดีไม่ได้ก็อาจจะเสียคน ด้วยเหตุนี้จึงมีการทำบุญเมื่ออายุ ๒๕ ปีเพื่อส่งให้เจริญงอกงามต่อไป ต่อจากนั้นก็ทำเมื่ออายุ ๕๐ หรือ ๖๐ ปีอีกครั้งหนึ่ง เพราะถือกันว่าตอนนิอายุย่างเข้ากึ่งหนึ่งของศตวรรษแล้ว และเจริญมากถึงที่สุดแล้ว ต่อไปร่างกายก็มีแต่จะทรุดโทรมลงทุกวัน การทำบุญที่อายุปูนนี้จึงเป็นการทำโดยไม่ประมาท ร่างกายเสื่อมลงไปๆ จึงควรทำบุญไว้ เพื่อเป็นประกันในเมื่อจวนจะหมดลมจะได้นึกว่าทำดีไว้มากแล้ว ถึงตายก็ตายอย่างสงบ อนึ่งการทำบุญอายุนี้ บางทีทำกันเมื่อมีอายุครบ ๒ รอบ ๓ รอบ ๔ รอบ ไปจนถึง ๕ -๖ รอบฯลฯ รอบหนึ่งมี ๑๒ ปีถ้าบรรจบปีเกิดในรอบไหนก็ทำในรอบนั้น วิธีปฏิบัติ อานิสงส์ผลดีหรือข้อเสนอแนะ เช่นเดียวกับการทำบุญวันเกิด



ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม



นี่คือรายชื่อองค์กรและมูลนิธิต่าง ๆ ที่คุณสามารถบริจาคได้

1. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก

2. ทำบุญวันเกิด บ้านอุ่นรัก

3. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ

4. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน

5. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้า

6. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

7. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก

8. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ.ในประเทศไทย

9. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

10. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสร้างเสริมไทย

11. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสันติสุข

12. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด

13. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิสิกขาเอเซีย

14. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

15. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอาร์ทฟอร์ออล

16. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก

17. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิอินเทอร์เน็ตเพื่อโรงเรียนและชุมชน

18. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเกื้อดรุณ

19. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก

20. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็ก

21. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กตัวเล็ก

22. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ

23. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ

24. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิกระจกเงา

25. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา

26. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิชีวิตบริบูรณ์

27. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิชุมชนไท

28. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิดร. พิชนี โพธารามิก

29. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิดวงประทีป

30. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิบ้านนกขมิ้น

31. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิปวีณาหงสกุล

32. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิรักษ์เด็ก

33. ทำบุญวันเกิด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

SEO Thailand

While graduate students at Stanford University, Larry Page and Sergey Brin developed "backrub", a search engine that relied on a mathematical algorithm to rate the prominence of web pages. The number calculated by the algorithm, PageRank, is a function of the quantity and strength of inbound links.[5] PageRank estimates the likelihood that a given page will be reached by a web user who randomly surfs the web, and follows links from one page to another. In effect, this means that some links are stronger than others, as a higher PageRank page is more likely to be reached by the random surfer.
Google headquarters

Page and Brin founded Google in 1998. Google attracted a loyal following among the growing number of Internet users, who liked its simple design.[6] Off-page factors (such as PageRank and hyperlink analysis) were considered as well as on-page factors (such as keyword frequency, meta tags, headings, links and site structure) to enable Google to avoid the kind of manipulation seen in search engines that only considered on-page factors for their rankings. Although PageRank was more difficult to game, webmasters had already developed link building tools and schemes to influence the Inktomi search engine, and these methods proved similarly applicable to gaining PageRank. Many sites focused on exchanging, buying, and selling links, often on a massive scale. Some of these schemes, or link farms, involved the creation of thousands of sites for the sole purpose of link spamming.[7] In recent years major search engines have begun to rely more heavily on off-web factors such as the age, sex, location, and search history of people conducting searches in order to further refine results.

By 2007, search engines had incorporated a wide range of undisclosed factors in their ranking algorithms to reduce the impact of link manipulation. Google says it ranks sites using more than 200 different signals.[8] The three leading search engines, Google, Yahoo and Microsoft's Live Search, do not disclose the algorithms they use to rank pages. Notable SEOs, such as Rand Fishkin, Barry Schwartz, Aaron Wall and Jill Whalen, have studied different approaches to search engine optimization, and have published their opinions in online forums and blogs.[9][10] SEO practitioners may also study patents held by various search engines to gain insight into the algorithms.[11]